Homeข้าวยำ , ข้าวยำตำเตี๋ยว , อาชีพอิสระ , ไอเดียดี � อาหารไทยเสิร์ฟด่วนสไตล์ญี่ปุ่น 'ข้าวยำตำเตี๋ยว'

Advertisements / พื้นที่โฆษณา
รักอาชีพ : ร้าน "ข้าว ยำ ตำ เตี๋ยว" ย่านสยามสแควร์ นำรูปแบบร้านอาหารแนวฟาสต์ฟู้ดของประเทศญี่ปุ่นมาปรับใช้ ที่จะรับออเดอร์และเก็บเงินผ่านตู้อัตโนมัติ ช่วยให้บริการเสิร์ฟอาหารได้รวดเร็ว ประหยัดพื้นที่ร้าน และยังช่วยลดต้นทุนค่าพนักงาน ขณะที่เมนูเน้นเป็นอาหารไทยจานด่วนอย่างข้าวแกง ยำ ส้มตำ และก๋วยเตี๋ยวที่ปรับโฉมให้ทันสมัยยิ่งขึ้น เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ และรูปแบบร้าน



ธีรชัย เดชานุวงษ์ เจ้าของร้าน “ข้าว ยำ ตำ เตี๋ยว” เล่าที่มาของร้านว่า ธุรกิจเดิมทำหมูกรุบ แบรนด์ “เหมา เหมา” ส่งตามร้านอาหารทั่วไป และอยากทำร้านอาหารของตัวเองเพิ่มเติม เพื่อเป็นจุดโฆษณา และกระจายสินค้าหมูกรุบ จึงเช่าพื้นที่เปิดร้านอยู่ที่สยามสแควร์ ซ.2 หลังโรงหนังลิโด้



อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพื้นที่ร้านค่อนข้างเล็ก เพียงแค่ 28 ตารางเมตร ถ้าต้องแบ่งส่วนทำเคาน์เตอร์เก็บเงิน ก็แทบจะไม่เหลือที่นั่งสำหรับลูกค้า ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว จึงคิดจะนำรูปแบบร้านฟาสต์ฟู้ดของประเทศญี่ปุ่น ที่จะรับออเดอร์และเก็บเงินผ่านตู้อัตโนมัติมาปรับใช้

“ที่ประเทศญี่ปุ่นใช้รูป แบบนี้กันทั่วไป โดยตอนแรกผมตั้งใจจะไปนำเข้าตู้อัตโนมัติจากประเทศญี่ปุ่นเลย แต่ติดปัญหาที่น้ำหนักและขนาดเหรียญและแบงก์ของไทยกับญี่ปุ่นแตกต่างกัน จึงให้ทางญี่ปุ่นคิดวงจร แล้วว่าจ้างวิศวกรไทยที่ทำด้านตู้หยอดเหรียญเป็นผู้ผลิตให้ ซึ่งกว่าจะสำเร็จใช้เวลาลองผิดลองถูกอยู่เกือบปี กับเงินลงทุนแสนกว่าบาท” ธีรชัย อธิบายเสริม


สำหรับขั้นตอนให้บริการนั้น จะเป็นตู้อัตโนมัติตั้งอยู่หน้าร้าน โดยลูกค้าจะต้องกดสั่งเมนูที่ตู้ พร้อมกับหยอดเงินตามจำนวน ซึ่งเครื่องจะรองรับได้ทั้งเหรียญและแบงก์พร้อมทอนเงินได้อัตโนมัติ ขณะเดียวกันข้อมูลรายการอาหารที่สั่งจะถูกส่งไปยังส่วนครัวทันที เป็นการตัดขั้นตอนที่ต้องมีพนักงานมาจดรับเมนู รวมถึงเก็บเงิน และส่วนครัวสามารถประกอบอาหารได้เลย โดยเฉลี่ยต่อจานจะเสิร์ฟให้ลูกค้าได้ในเวลาไม่เกิน 5 นาที

ธีรชัย เผยด้วยว่า ร้านรูปแบบนี้ในประเทศญี่ปุ่น ลูกค้าจะบริการตัวเองครบวงจรตั้งแต่สั่งจนถึงรับอาหารมานั่งกิน โดยไม่ต้องมีพนักงานเสิร์ฟบริการเลยสักคน แต่สำหรับ ร้าน “ข้าว ยำ ตำ เตี๋ยว” ปรับรูปแบบเล็กน้อยให้เหมาะกับวัฒนธรรมของคนไทย โดยยังมีพนักงาน 1 คนคอยเสิร์ฟอาหารให้ถึงโต๊ะ


ในส่วนของเมนูอาหารนั้น เจ้าของร้าน ระบุว่า ขณะนี้มีอยู่ 12 รายการ แบ่งเป็น 4 ประเภทตามชื่อร้าน ได้แก่ เมนูข้าว ยำ ส้มตำ และก๋วยเตี๋ยว โดย เน้นเป็นอาหารไทยจานเดียวที่กินง่าย ทำได้อย่างรวดเร็ว และคนทั่วไปคุ้นเคยดีอยู่แล้ว นำมาปรับเพิ่มสีสันให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งหน้าตา หรือจัดเป็นชุด รวมถึง พยายามใช้หมูกรุบมาเป็นส่วนผสมในแทบทุกเมนูเพื่อสร้างเอกลักษณ์ประจำร้าน โดยเมนูอาหาร เช่น ข้าวผัดเขียวหวานไก่ไข่เค็ม ยำมาม่าปลากระป๋อง ส้มตำหมูกรุบ และก๋วยเตี๋ยวหน้าไก่ เป็นต้น ถ้าจัดเป็นชุดจะเพิ่มเติมสลัดผัด ซุปต้มยำ เยลลี่เงาะ และน้ำชา

ร้านข้าวยำตำเตี๋ยว รองรับลูกค้าได้ 16 ที่นั่ง มีพนักงานส่วนครัว 3 คน และเสิร์ฟ 1 คน ด้านราคาอาหารจะเริ่มต้นที่ 60 บาท ถึงสูงสุด 150 บาท โดยเฉลี่ยลูกค้าเมื่อเข้าร้านจะใช้จ่ายประมาณ 120 บาทต่อคน ซึ่ง ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของร้านอาหารในย่านสยามสแควร์ที่ต่อคนจะใช้จ่ายประมาณ 150 บาท แต่จะทดแทนด้วยจำนวนลูกค้าที่หมุนเวียนได้เร็วขึ้น เพราะการสั่งออเดอร์ด้วยตู้อัตโนมัติ และเมนูที่กินได้สะดวก ทำให้ค่าเฉลี่ยลูกค้าจะใช้เวลาอยู่ในร้านแค่ประมาณคนละ 15-20 นาที นอกจากนั้น ประโยชน์อีกประการของการใช้ตู้อัตโนมัติ คือ ป้องกันเงินรั่วไหลได้เป็นอย่างดี เพราะเงินสดจะถูกเก็บเข้าไว้ในตู้อัตโนมัติ โดยไม่ต้องผ่านมือพนักงานเลย

ภายในร้านบริการได้ 16 ที่นั่ง
ธีรชัย เล่าต่อว่า ใช้เงินลงทุนธุรกิจนี้ไปกว่าเจ็ดหลัก ทั้งค่าตกแต่งร้าน อุปกรณ์ต่างๆ และค่าตู้อัตโนมัติ โดยเริ่มแรกวางลูกค้าเป้าหมายไว้ที่วัยรุ่น ซึ่งชอบความแปลกใหม่ แต่ในความเป็นจริง เป็นที่นิยมของลูกค้าแทบทุกกลุ่มตั้งแต่เด็กวัยรุ่นจนถึงวัยทำงาน ซึ่งต้องการความรวดเร็วในช่วงมื้อเที่ยง นับแต่เปิดร้านมาได้กว่า 3-4 เดือน เฉลี่ยลูกค้าเข้าร้านประมาณ 80 คนต่อวัน ถ้าเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ลูกค้าจะเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว

โทร. 081 -555 -7557
เปิดบริการเวลา. 11.00-21.00 น.
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Manager Online

0 comments

Leave a Reply | คอมเม้นท์