Advertisements / พื้นที่โฆษณา
รักอาชีพ : "ADT Online" ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องเติมเงินมือถือแบบหยอดเหรียญ เผยยอดพุ่งก้าวกระโดด ครองแชมป์ยอดขายสูงสุด 3 ปีซ้อน พร้อมขยายธุรกิจทุ่มงบ 30 ลบ. เพิ่มพื้นที่โรงงานในไทย กว่า 2,000 ตารางเมตร ตามด้วยเร่งพัฒนาสินค้า และเทคโนโลยี รองรับบุกขยายตลาดประเทศเพื่อนบ้าน
นายสามารถ สร้างบัณฑิตสกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอดีทีออนไลน์ไทยแลนด์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายตู้เติมเงิน ADT online เปิดเผยว่า ธุรกิจเครื่องเติมเงินมือถือ ออนไลน์ แบบหยอดเหรียญ เป็นหนึ่งธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วในระยะเวลา 3-4ปีที่ผ่านมา เพราะนับจากปี 2549 จำนวนผู้ใช้มือถือทั่วประเทศมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และพบว่าในระบบเติมเงิน (Pre Paid) มีจำนวนสูงกว่า 40 ล้านเลขหมาย คิดเป็นอัตราส่วนร้อย 80% ของจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือทั้งหมด (จากข้อมูลในปี 2550) และเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จุดนี้ส่งผลให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนต่างมองเห็นโอกาสและให้ความสนใจเข้ามาดำเนินธุรกิจเครื่องเติมเงินมือถือ ทำให้ธุรกิจนี้เป็นที่ได้รับความนิยมสูงตามมาด้วย
นายสามารถ สร้างบัณฑิตสกุล |
สำหรับในปีนี้ (2553) ADT online ยังพัฒนาอย่างไม่หยุดโดยทุ่มงบประมาณกว่า 30 ล้านบาท เพื่อขยายโรงงานผลิต และอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต และการขยายธุรกิจเข้าไปทำตลาดในประเทศเพื่อนบ้านอย่าง เวียดนาม ลาว และกัมพูชา ซึ่งถือว่าเป็นตลาดที่ใหญ่และมีช่องว่างในการเข้าไปทำตลาดได้อีกมาก ทั้งนี้บริษัทฯ จะเริ่มเข้าไปศึกษาความต้องการ และออกแบบผลิตภัณฑ์ ให้เหมาะสมกับความต้องการในตลาดก่อน และจะเริ่มทำตลาดอย่างจริงจังในปี 2554 โดยคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีคล้ายกับเมื่อเริ่มทำตลาดในประเทศเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา
ปัจจุบันตู้เติมเงินมือถือแบรนด์ ADT online ได้รับการพัฒนามาด้วยกัน 3 รุ่น คือ รุ่น ADT-01 รุ่นเล็กรับเฉพาะเหรียญ 1,2,5,10 รุ่น ADT-02 เป็นรุ่นที่สามารถเสริมในส่วนที่จะรองรับธนบัตรได้ และรุ่นADT-03 เป็นรุ่นที่รองรับทั้งเหรียญและธนบัตร และทุกรุ่นติดตั้งพร้อมขาตั้ง สัญญาณกันขโมยและไฟส่องสว่างเวลากลางคืน มีระบบเสียงอธิบายการทำงาน พร้อมระบบคืนเงินที่แม่นยำ
ส่วนพื้นที่ที่เหมาะแก่การลงทุนทำธุรกิจนี้ ควรเป็นพื้นที่แหล่งชุมชน ที่พักอาศัย ห้างสรรพสินค้า สถานศึกษา ตลาด ฯลฯ สำหรับรายได้ของธุรกิจตัวนี้จะมาจาก ค่าธรรมเนียมการเติมเงินของผู้ใช้บริการ 1 ครั้ง ซึ่งผู้ลงทุนจะได้ค่าธรรมเนียม 1,2 หรือ 3 บาท ต่อการเติม 1 ครั้ง (แล้วแต่ผู้ประกอบการจะกำหนด) และส่วนต่างเปอร์เซ็นต์ จาก Dtac ให้ 3.5% , AIS ให้ 3.5% และ Truemove ให้ 5.5% ยกตัวอย่าง เติมเงิน Dtac 1000 บาท จะได้เงินมาจำหน่ายในระบบ 1,035 บาท ส่วนต้นทุนที่จะเกิดขึ้นจะมาจากต้นทุนการเติมเงินเข้าระบบของแต่ละเครือข่าย การเช่าพื้นที่และต้นทุนค่าไฟฟ้าซึ่งอยู่ที่ประมาณ 90 บาท/เดือน ประมาณการระยะเวลาคืนทุนนั้น บริษัทประเมินเบื้องต้นว่า หากมีผู้ใช้บริการ 60 ราย/วัน เติมเงินรายละ 50 บาท เจ้าของตู้จะมีรายได้ประมาณ 7,000-8,000 บาท/เดือน ดังนั้นระยะเวลาการคืนทุนจะอยู่ที่ประมาณ 5-6 เดือน และในทำเลที่ดีผู้ลงทุนสามารถคืนทุนได้ภายในระยะเวลาเพียง 3-4 เดือน ส่วนการเติมเงินเข้าซิมการ์ดสำหรับเจ้าของตู้ สามารถทำได้หลายทางด้วยกัน คือ เติมเงินทาง ATM ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา, สำหรับ True Move สามารถเติมด้วยบัตรเติมเงินได้เลย, เติมผ่านเคาน์เตอร์เซอวิสของซ็อปโทรศัพท์มือถือทั้ง 3 ระบบ
นายสามารถ ระบุด้วยว่า เทรนด์ของการทำธุรกิจตู้เติมเงินมือถือในอนาคตจากนี้ จะต่างจากเมื่อ 3-4 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากเมื่อ 3-4ปีที่ผ่านมา ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจใหม่ การแข่งขันน้อยแต่ตลาดค่อนข้างเล็ก จึงต้องสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภคเกี่ยวกับการใช้งานและความน่าสนใจของการลงทุน แต่ปัจจุบันการแข่งขันสูง แต่ตลาดกว้างขึ้น จึงต้องสร้างการรับรู้ในเรื่องของข้อดี และจุดเด่นในตัวสินค้า ให้กับผู้บริโภคและนักลงทุนได้ตัดสินใจเลือก ทั้งในเรื่องของนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ๆ เรื่องของคุณภาพสินค้าและบริการหลังการขาย รวมทั้งเรื่องของทรัพย์สินทางปัญญา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : ผู้จัดการออนไลน์
หากมีผู้ใช้บริการ 60 ราย/วัน เติมเงินรายละ 50 บาท เจ้าของตู้จะมีรายได้ประมาณ 7,000-8,000 บาท/เดือน ดังนั้นระยะเวลาการคืนทุนจะอยู่ที่ประมาณ 5-6 เดือน และในทำเลที่ดีผู้ลงทุนสามารถคืนทุนได้ภายในระยะเวลาเพียง 3-4 เดือน
คิดเอาแต่ได้ คำนวนมามีแต่ตัวเลข มีใครมีรายได้เท่านี้มั้ง เอาข้อมูลใน Web Mpay และ Happy Online มาโชว์หน่อยซิ ว่าขายได้วันละกี่คน ต้องขายยอดน้อยถึงจะมีกำไรมาก แถมตอนนี้เห็นออก Softwareใหม่ออกมาแต่ ไม่ยอม Update ให้ลูกค้าเก่า ถ้าลูกค้าเก่าจะ Update ต้องเสียตังเพิ่มอีก ตู้ละ 5000 จะขายแต่ของใหม่ แถมไม่เคยเอาข้อเสียของตัวเองมาเสนอเลย แบบแบ็งค์ตั้ง 4 หมื่นกว่าบาท รับได้แค่ทีละใบ ที่เหลือต้องหยอดเหรียญเหมือนเดิม แถมเวลาแบ็งค์มันคืนมันปริวหลุดตกออกมาเลย ถ้าลูกค้าเติมแล้วไม่รอ SMS แถมเงินไม่เข้า จะกลับมาเอาเงินก็ไม่เจอแล้ว ถามหน่อยเจ้าของตู้ที่เจอเหรียญดำเยอะๆ ทำอย่างไรกัน กำไรอยู่มันตรงนั้นเหละ มีตู้เดียวไม่มีกำไลครับท่าน ถ้าไม่มีเงินถุงเงินถังอย่าได้ทำเชียว เห็นขายทิ้งกันเยอะเลย เห็นซื้อมาได้ไม่ถึง เดือนก้ขายก็มี สองสามเดือนขายก็มี เพราะไม่ประสบความสำเร็จ ยอดไม่ได้ตามเป้า บอกเลยมันขึ้นอยู่กับทำเล ถึงจะดีจริง อย่าได้หวังกับยอดในเมืองที่ว่าจะได้ 50-60 คน เพราะในเมืองมีแต่ 7 11 แถมคู่แข่งตู้ก็เยอะ อย่าเชื่อแต่คำโฆษณามากนัก ศึกษาจากคนที่ทำอยู่แล้วดีที่สุด ขอบอกเลยว่าถ้าไม่มีเงินทุนคุณอย่าได้ทำ คุณซื้อตู้มาแล้ว 3-4หมื่น มันไม่ได้จบแค่นั้น คุณต้องมีเงินหมุนในตู้ด้วย ตู้ละ 3 เบอร์ ขึ้นอยู่กับว่าคุณขายดีหรือปล่าว ถ้าคิดทำเป็นธุรกิจยากครับ ถ้าไม่ใช่ร้านตัวเอง เพราะต้องเช่าที่เค้าด้วย ต้องเอากำไรแบ่งให้ร้านด้วย ตู้แบบนี้เหมาะกับร้านตัวเองถึงจะได้โดยไม่ต้องแบ่งใคร อยากให้ บริษัท อย่าคำนึงถึงแต่ประโยชน์ของตัวเองมากนัก ขายของไปแล้วคุณต้องเห็นใจคนที่ซื้อของของท่านไปด้วย สมัยนี้เงิน 3-4 หมื่นหามาไม่ใช่เรื่องง่าย ใช่คุณอาจจะบอกว่ามีคนทำแล้วยอดได้เท่านั้นเท่านี้ แล้วคนที่ซื้อท่านไปแล้ว ทำไม่ถึงเดือนขายเป็นมือสองขาดทุนตั้งเป็นหมื่น ท่านมีโครงการ ประกันรายได้หรือซื้อคืนไนราคาที่เหมาะสมหรือไม่ คิดๆๆๆ ครับ เรื่องตู้เก่าก็เช่นกัน ไม่ควรที่จะเอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาขายของใหม่อย่าเดียว ควรดูแลพวกเขาด้วย แพงเกินไปสำหรับการ UpGrade ค้าขายควรมีความคิดครับ อย่าให้เหมือนกับหลายๆๆ กระทู้ที่เขาด่ากันอย่าให้ถึงกับต้องทุบตู้โชว์กันครับ ฝากด้วยผู้บริหาร
ผมหลงซื่อมา ตั้ง 6 ตู้ ขายยอดดีที่สุดมีตู้เดียวคือวันละ 30 กว่าคน กำไล 3พันกว่าบาทต่อเดือนต้องแบ่งให้ร้าน พันกว่าบาท ให้น้อยก็ไม่อย่ากให้ตั้ง ให้เป็นค่าเช่าที่ก็ไม่ดูแลให้ ไม่แลกเหรียญให้ ขายมาเป็นปีแล้วยังไม่คืนทุนเลยแถมหมดประกันไปแล้ว เซ็งเป็ด
เรื่อง OEM ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อ K, Z, R, คุณขายเค้าไปเค้าเอาไปบวกกำไร ขายแพงกว่าตังหายพัน แถมมีคนหลงซื้อไปโดยไม่รู้เลยว่ามาจากที่เดียวกัน แต่เวลาซ่อมหรือ Upgrade ต้องเสียตังเพื่มจากเจ้าของสติกเกอร์หน้าตู้ด้วย อย่างตัวรับเหรียญถ้าจะให้รับเหรียญรุ่นใหม่ได้ ยี่ห้อ R จะคิดตัวละ 4-5ร้อยทั้งๆที่เครื่องยังอยู่ในประกัน ยี่ห้อ Z Upgrade Free แต่ต้องให้ส่งตัวรับเหรียญไป แล้วจะส่งมาให้ คิดได้ไง แล้วตู้มันจะเอาอะไรหยอด เอาอะไรขาย ตู้จะขายไม่ได้เกือบ 2 อาทิตย์ กว่าจะส่งไปส่งกลับ แถมมีอยู่ตัวนึงของเรายังไม่หมดประกันตัวรับเหรียญใหม่มาก มันส่งกลับมาเป็นของเก่ามาก รับได้มั้งไม่ได้มั้ง ให้ส่งกลับไปอีกเจริญละ
ใครจะเป็นเจ้าของธุรกิจประเภทนี้มีเงินอย่างเดียวไม่พอ ต้องโง่ด้วยนะจำไว้ ผมก็ดันเป็นหนึ่งในนั้น
2ปีแล้วค่ะ ของADTนี่แหละตั้งไว้ที่โคราช เครื่องแรกและเครื่องเดียวของหมู่บ้าน ทำเลดีติดถนน กำไรสูงสุดหักค่าไฟค่าดูแลแล้วเดือนละ1200บาท แต่ส่วนใหญ่กำไรอยู่ที่500บาท อีก2ปีจะคืนทุนรึเปล่ายังไม่รู้ แถมยังต้องมีเงินหมุนเวียนในตู้5000บาทต่อเดือน เอาไปทำอย่างอื่นยังจะได้เยาะกว่านี้
1ปีกว่าแล้วค่ะยังไม่ได้ทุนคืนเลย แถมประกันหมด จะต้องต่อปะกันอีกตั้ง 4000 ไม่ทราบว่าเค้าเอาเปรียบเราหรือเปล่า เครื่องเสียก็ให้ซื้ออะไหล่ใหม่เลย ไม่มาซ่อมเพราะประกันหมด ซวยจิงๆ ไม่น่าเล้ย
คนที่รวยคือ ADT ขายทิ้งอย่างเดียว
ราคาตั้ง 3-4หมื่น เติมได้แค่ 3 ระบบ ห่วย เดี๋ยวนี้เค้าหันไปเล่น Server กันแล้ว เติมได้หมด แถมมีหลายตู้ก็แชร์เงินกันได้ด้วยไม่ต้องดองเงินในซิมแล้ว
ตอนนี้มันตั้งหน้าตั้งตาผลิตให้ซิงเกอร์อย่างเดียวเลย ขายเอาจำนวนมากเข้าว่า ซิงเกอร์ก้ล้อไปผ่อนต่อ จาก 33000 ผ่อนเสร์จตกไป 4หมื่นกว่า เจริญละ มันรวย เรานะจน จำไว้
ตอนนี้ตู้ที่มันขายมา มันไม่สนใจแล้ว game ก้เติมไม่ได้ truemove-H ก็เติมไม่ได้ และก็จะออก Board ใหม่อีกละ เจริญละ ไม่แก้ไขของเก่า ทำของใหม่ออกมาขาย ใครอยากเติมเร็วก้ต้องเสียตังเปลี่ยนBoard 5000-7000 รวยจังมึง จนจังกู
รวยจังมึง จนจังกู 555555
ถ้า ADT มาตอบมันก็จบตอบว่า โง่จังมึง โสนะน่า 55555
เติมทรูมันนี่ก็ไม่เข้า แถมโทรหาคอลเซ็นเตอร์ก็ไม่รับสาย ไหนบอก24ชั่วโมง