Homeธุรกิจปิ่นโต , ปิ่นโต เดลิเวอรี่ , แฟรนไชส์ , อาหารส่งถึงบ้าน � ปิ่นโต เดลิเวอร์รี่ ธุรกิจอาหาร ส่งได้ถึงบ้าน

Advertisements / พื้นที่โฆษณา
รักอาชีพ : ขอนำเสนอข้อมูลธุรกิจดี ๆ อีกหนึ่งธุรกิจ ที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องปากท้องของคนเมือง เป็นธุรกิจที่สวนกระแสเศรษกิจในบ้านเมืองนี้เป็นอย่างมาก เพราะเนื่องจากสามารถตอบสนองความต้องการของคนไทย ที่หันมาเน้นอยู่บ้านกันมากขึ้น ทำไมถึงอยู่บ้านมากขึ้น... นั้นก็เพราะการเดินทางนอกบ้านในแต่ละครั้ง ต้องมีค่าใช้จ่ายสูง และการจราจรที่ติดขัดเป็นระยะ ชวนให้หงุดหงิด อารมณ์เสียได้ตลอดเวลานั่นเอง
ปิ่นโต เดลิเวอร์รี่ ธุรกิจอาหาร ส่งได้ถึงบ้าน
เมนูข้าวกล่องข้าวผัดอเมริกัน และแกงเขียวหวานไข่เค็มปลาสลิด
อีกทั้งวิถีชีวิตของคนเมืองอย่างเรา ๆ จำนวนมาก ไม่ค่อยที่จะมีเวลาทำอาหารรับประทานกันเองที่บ้าน เพราะเหนื่อยล้าจากการเดินทาง และการทำงานมากพอสมควรอยู่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นการซื้ออาหารจากนอกบ้านมารับประทาน หรือทานจากนอกบ้านให้เสร็จเรียบร้อยเลย

แต่ดั้งเดิมเรียกขานกันว่าอาหารปิ่นโต แต่มายุคนี้เห็นทีจะเชยถ้าเอ่ยเรียกว่าอย่างนั้น หลายท่านจึงนิยมเรียกทับศัพท์ภาษาอังกฤษให้ฟังดูโก้ว่า อาหารดีลิเวอรี่ (Delivery) นั่นเอง

สิริกร ดีลิเวอรี่ ผู้ประกอบการด้านอาหารส่งตรงถึงบ้าน เริ่มดำเนินกิจการเมื่อไม่นานมานี้ แม้จะมีจุดเริ่มต้นจากครัวเล็กๆ หลังบ้าน แต่ไม่นานสามารถเติบโตจนเป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวาง
ปิ่นโต เดลิเวอร์รี่ ธุรกิจอาหาร ส่งได้ถึงบ้าน

แม้จะให้บริการได้เฉพาะพื้นที่ย่านชานเมืองแถบฝั่งธนบุรี และยังไม่โด่งดังเทียบเท่ากับแบรนด์ใหญ่ แต่หุ้นส่วนคนสำคัญของกิจการนี้ ขอการันตีตัวเองว่า คุณภาพสินค้าและบริการของเขานั้นไม่น้อยหน้าใคร

ในโอกาสนี้ เขาได้กรุณาสละเวลามาถ่ายทอดให้คนที่สนใจ ต้องการเสนอตัวเข้ามาเป็นผู้ประกอบการด้านอาหารดีลิเวอรี่ ตั้งแต่จุดเริ่มต้นไปตลอดจนเทคนิคสำคัญในการตั้งต้นเป็นอาชีพ แบบไม่หวงวิชากันเลยทีเดียว

ปิ่นโต เดลิเวอร์รี่ ธุรกิจอาหาร ส่งได้ถึงบ้าน
ชะอมไฟแดงห่อไข่

ยังมีช่องว่างน่าลุ้น
ธุรกิจด้านอาหาร ไม่ต้องเปิดเป็นร้านก็ได้ เพราะยังมีทางเลือกอื่นอีกหลายทาง ที่จะนำสินค้าไปส่งลูกค้าได้เหมือนกัน และธุรกิจอาหารดีลิเวอรี่นั้น ไม่ต้องลงทุนอะไรมากเท่ากับการเปิดเป็นร้าน ขอให้มีฝีมือในการทำอาหารและจัดการให้ดีก็พอ คุณภูวนาถ อินทราทิพย์ หุ้นส่วนคนสำคัญในกิจการ "สิริกร ดีลิเวอรี่" ในวัย 47 ปี เริ่มต้นบทสนทนา ก่อนเล่าความเป็นมาส่วนตัว ให้รู้จักกันมากขึ้นว่า ศึกษาจบมาทางด้านรัฐศาสตร์ แต่ไม่เคยทำงานตามสายที่ร่ำเรียนมา เพราะมีใจรักด้านการทำธุรกิจ เคยทำมาแล้วหลายอย่าง ทั้งงานโฆษณา อู่ซ่อมรถ กระทั่งร้านอาหารของตัวเอง

เราจับประเด็นว่าตลาดอาหารดีลิเวอรี่นี้ น่าจะมีช่องว่างให้เข้าไปแทรกได้ เลยเริ่มต้นด้วยการศึกษาตัวอย่างจากรายใหญ่แบรนด์ดังๆ ที่เขาทำมาก่อนหน้าแล้ว โดยดูทั้งกลยุทธ์ด้านการตลาด เมนูอาหาร พื้นที่จัดส่ง เราหาข้อมูลเหล่านี้กันนานพอสมควร ไม่งั้นคงจะเข้าไปแทรกขอแบ่งตลาดได้ลำบาก
ปิ่นโต เดลิเวอร์รี่ ธุรกิจอาหาร ส่งได้ถึงบ้าน
สปาเก็ตตี้ไก่

หลังจากปิ่นโตมื้อเย็น ได้รับความนิยมมากขึ้น จึงประชาสัมพันธ์ตัวเองเพิ่มขึ้น ผ่านทางเว็บไซต์ ทำให้มีการถามถึงอาหารกลางวันและอาหารสำหรับงานประชุม สัมมนา จึงตัดสินใจเพิ่มการบริการในส่วนนี้ขึ้นมา ปัจจุบันเลยมีบริการทั้งอาหารปิ่นโตมื้อกลางวัน-เย็น อาหารกล่อง และสแน็กบ็อกซ์

ก่อนบอกถึงเทคนิคสำคัญของการทำธุรกิจอาหารดีลิเวอรี่ด้วยว่า การจัดส่งให้ตรงเวลานั้นมีความสำคัญมาก เพราะไม่ว่าอาหารของคุณจะดียังไง ถ้าส่งไม่ตรงเวลา ลูกค้าไปหมดแน่ ฉะนั้น อาจต้องสร้างทีมส่งของตัวเองไว้สัก 2 สาย ที่เหลืออาจเป็น "ม้าด่วน" ที่ไว้ใจได้

การส่งอาหารกำหนดเป็นช่วงเวลา มื้อเวลากลางวัน ส่ง 10 โมงเช้าถึงเที่ยง มื้อเย็นส่ง 4 โมงถึง 6 โมงเย็น และต้องทำความเข้าใจกับลูกค้าว่า การกำหนดเวลาตายตัวในการรับอาหารนั้น ทำได้แค่ใกล้เคียงที่สุด เพราะต้องส่งให้ลูกค้าหลายเจ้า แต่ถ้าลูกค้าได้รับอาหารเวลาไหน จะได้รับเวลานั้นตลอด ต้องพูดให้เข้าใจตรงกันก่อน

จากสถิติ จากศูนย์วิจัยกสิกรไทยฯ พบว่า ในปี 2551 ธุรกิจดีลิเวอรี่สินค้าอาหารในประเทศไทยนั้น มีมูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับปี 2550

และนี้ก็คือข้อมูลดี ๆ ที่ทางรักอาชีพ ได้เรียบเรียงมาให้ทุกท่านได้อ่านกัน โดยธุรกิจนี้ แน่นอนเลยว่า การเติบโตนั้นดีแน่นอน เพราะเป็นธุรกิจในเรื่องของอาหารการกิน ที่ตอบสนองความต้องการของคนเมืองให้อย่างสมบูรณ์ หากสนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ :

โทร. 08-1139- 3355
อีเมลล์. fooddelivery2@gmail.com
เว็บไซต์. http://sirikorndelivery.multiply.com
เรียบเรียงใหม่
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : มติชน

1 comments

  1. Unknown says:

    ขออนุญาตฝากงานทำที่บ้านเป็นงานลักษณะงาน part time รายได้ดี สนใจติดต่อที่นี่ http://nationjobs.blogspot.com/2012/08/blog-post_13.html

Leave a Reply | คอมเม้นท์